March 18, 2025

เตรียมรถของคุณให้พร้อมก่อนท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์

ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาวได้อีกด้วย เผื่อในอนาคตจำเป็นต้องสมัครสินเชื่อจำนำรถยนต์ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

การดูแลและบำรุงรักษารถยนต์อย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถเท่านั้นแต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาวได้อีกด้วย เผื่อในอนาคตจำเป็นต้องสมัครสินเชื่อจำนำรถยนต์ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง นี่คือแนวทางการดูแลรักษารถยนต์ที่รวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด:

การตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์

1. ตรวจสอบและเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง‍

  • ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดในคู่มือผู้ใช้ มีข้อแนะนำดังนี้

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ ควรเปลี่ยนที่ระยะทางเท่าไร

  • น้ำมันเครื่องธรรมดา ควรเปลี่ยนที่ระยะ              7,000-7,500     กม.
  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนที่ระยะ    10,000-15,000   กม.
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ควรเปลี่ยนที่ระยะ        15,000-20,000   กม.

รีไฟแนนซ์รถยนต์ ไม่เช็คเครดิต, จำนำเล่มทะเบียนรถยนต์

2. ตรวจสอบระบบระบายความร้อน

o   หมั่นตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นว่าระดับน้ำลดลงมากกว่าเกณฑ์ปกติหรือไม่

o   ไม่ควรเติมน้ำประปาควรใช้น้ำยาหล่อเย็นตามสเปกโรงงานยี่ห้อรถยนต์กำหนดเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกินตะกอนที่แผงหม้อน้ำและทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป

การบำรุงรักษาเบรคและยาง

1. ตรวจสอบและเปลี่ยนผ้าเบรค

o   เบรคเป็นส่วนสำคัญที่ต้องใช้งานได้ดีควรตรวจสอบผ้าเบรคและเปลี่ยนเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพโดยมีข้อแนะนำดังนี้

ผ้าเบรค

ผ้าเบรคเสื่อมสภาพ ส่วนที่มีการสึกหรอง่ายที่สุดต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อเสื่อมสภาพของระบบเบรคก็คือผ้าเบรคนี่แหละโดยวิธีเช็คว่าส่วนนี้ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่หรือยัง คุณสามารถทำเองได้เพียงแค่ลองเหยียบเบรคแล้วสังเกตว่าระยะเบรคที่เท้าลึกลงไปกว่าเดิมหรือไม่ถ้าเหยียบได้ลึกมากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ว่าระยะของเนื้อผ้าเบรคเริ่มสึกหรอหายไปกลายเป็นช่องว่างที่มากขึ้นระหว่างผ้าเบรคกับจานเบรคและนั่นก็หมายความว่าอาจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ได้แล้ว

จานเบรค

ผลจากการเบรคคือการสึกหรอที่กลายเป็นฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดที่จานเบรคซึ่งนั่นส่งผลให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพคำแนะนำคือควรทำความสะอาดจานเบรคสักหน่อย ล้างเบรครถยนต์โดยใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับทำความสะอาดเพื่อล้างคราบสิ่งสกปรกที่จานเบรคให้หายไปเหยียบติดหนึบได้กับทุกสถานการณ์ของคุณเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย

ตรวจเช็ค ระบบเบรครถยนต์หมั่นสังเกตรอยรั่วตามส่วนต่าง ๆ

พวกยางที่ปั๊มเบรคคืออีกส่วนที่มีปัญหาบ่อย ต้องดูแลตามระยะ ลองสังเกตคราบน้ำมันหยดตรงที่รถจอดบริเวณล้อ“มองข้ามไมได้” เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่าตัวระบบมีจุดไหนรั่วซึมซึ่งส่งผลให้น้ำมันเบรคลดลงต่ำกว่าความต้องการและอาจทำให้ตอนที่คุณเบรคทำได้ไม่ดีพอดังนั้นเมื่อเจอคราบน้ำมันหยดหรือสังเกตที่สายเบรคเห็นเป็นคราบสกปรกจากน้ำมันให้รีบเข้าอู่/ศูนย์ซ่อมเพื่อรีบซ่อมโดยทันทีน่าจะดีที่สุด

2. ตรวจสอบยางและแรงดันลมยาง

o   ตรวจสอบสภาพยางและระดับแรงดันลมยางทุกครั้งก่อนขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและช่วยให้รถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมีข้อแนะนำดังนี้

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์, สินเชื่อธนาคารอิสลาม

– ลมยางรถยนต์อ่อนเกินไป

รู้สึกว่าช่วงล่างนุ่มเกินไปเวลาขับขี่ ขับรถแล้วรู้สึกรถไม่ค่อยเกาะถนนเท่าที่ควรยิ่งขับรถด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น รถก็ยิ่งมีอาการโงนเงน ไม่นิ่ง ไม่มั่นคงหรือรู้สึกโยนมากขึ้นเมื่อขับบนถนนที่ไม่เรียบ

ข้อเสียเมื่อลมยางอ่อนก่อนไป

เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติและเปลืองน้ำมันมากขึ้นยิ่งถ้าหากลมยางอ่อนมากๆ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิดเพราะแก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนทำให้แรงดันในลมยางขยายตัว

– ลมยางรถยนต์แข็งเกินไป

สังเกตได้ง่ายๆว่า ถึงแม้ว่าในช่วงออกตัวรถจะดูไม่มีปัญหาอะไรก็จริงแต่ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเวลาเบรคกะทันหันจะต้องใช้ระยะเบรคมากขึ้นกว่าปกติ

ข้อเสียเมื่อลมยางแข็งเกินไป

การเติมลมยางแข็งเกินไปจะทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วแล้วตกหลุมหรือเกิดแรงกระแทกรุนแรงขณะขับขี่ก็อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นเดียวกับลมยางอ่อน

7 ทริคในการเช็คสภาพยางรถยนต์

1. เช็คลมยางรถยนต์ ขณะที่ยางยังเย็น

การ วัดลมยางรถยนต์ และเติมลมยางที่ถูกต้องควรจะวัดและเติมลมในขณะยางรถยนต์ยังมีอุณหภูมิปกติอยู่ หรือเพิ่งวิ่งมาไม่เกิน 2กิโลเมตร นั่นหมายความว่าหากคุณวิ่งรถมาไกลแล้วต้องการจะแวะปั๊มเพื่อเช็กและเติมลมยางเลยย่อมไม่สามารถทำได้เพราะการเสียดสีที่เกิดขึ้นในช่วงที่รถวิ่งมาไกลจะทำให้ล้อร้อนขึ้นซึ่งทำให้อากาศภายในยางขยายตัว ทำให้แรงดันล้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติหากเป็นเช่นนี้จำเป็นจะต้องพักรถจนเครื่องยนต์และล้อเย็นลงซึ่งอาจต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง(อาจน้อยกว่านี้หากขับมาบนนถนนที่ไม่ร้อน หรือขับมาในช่วงดึก-เช้า)จึงจะทำการวัดและเติมลมยางได้

2. อ่านค่า เช็คลมยางรถยนต์

เตรียมตัวกันแล้วก็มาถึงการ เช็คลมยาง แค่คลายฝาเกลียวบนก้านวาล์วของยางรถยนต์ จากนั้นหมุนจุกยางล้อออกและวางไว้บริเวณที่ปลอดภัยป้องกันการสูญหายพร้อมกับเสียบเกจ์วัดลมยางเข้าไป โดยขณะที่เสียบเกจ์วัดลมยางเข้ากับก้านวาล์วที่เปิดอยู่ถ้าได้ยินเสียงลมรั่วหรือมีอากาศเล็ดลอดออกมาแปลว่า เสียบไม่เข้าที่ให้เสียบเข้าไปใหม่จากนั้นให้เชื่อมต่อมาตรวัดค้างไว้สักครู่ก็จะสามารถอ่านค่าแรงดันยางจากหน้าปัดแสดงผลได้โดยค่าความดันยางก็คือ ตัวเลขสุดท้ายที่ปรากฎนั่นเอง

3. เติมลมยางให้ได้ค่ามาตรฐาน

หลังจากทราบค่าแรงดันลมยางปัจจุบันแล้วหากแรงดันลมยางน้อยเกินไปให้ใช้เครื่องอัดอากาศที่มาพร้อมกับมาตรวัดแรงดันลมยางทำการเติมลมเพื่อเพิ่มความดันที่เหมาะสมซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 28-32 ปอนด์/ตร.นิ้ว(PSI) โดยอาจมากหรือน้อยกว่านี้ตามชนิดของรถและประเภทการใช้งานซึ่งเจ้าของรถสามารถอ้างอิงตัวเลขที่เหมาะสมกับรถได้จากตารางแรงดันลมที่แจ้งไว้ในคู่มือการใช้รถแต่ห้ามเติมลมยางเกินค่า PSI ที่ระบุไว้ที่แก้มยางเพราะนั่นเป็นแรงดันลมสูงสุดของยางที่สามารถรับได้

ลิสซิ่ง ไม่เช็คเครดิตบูโร, บริษัทรีไฟแนนซ์รถยนต์

4. เติมแรงดันเพิ่มเล็กน้อยถ้ายางยังร้อน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าควรวัดค่าความดันลมยางขณะที่ยางยังมีอุณหภูมิปกติแต่หากจำเป็นต้องเติมลมยางกะทันหันขณะรถเพิ่งวิ่งทางไกลมากจริงๆก็ควรเติมเกินจากค่าความดันที่เหมาะสมไปอีก 2 ปอนด์ เพื่อชดเชยกับความดันในล้อที่จะลดลงเมื่อรถได้พักและล้อเย็นตัวลงสู่สภาพปกติ นอกจากนั้น สำหรับรถยนต์ที่บรรทุกของที่มีน้ำหนักมากหรือมีผู้โดยสารร่วมทริปมาก ก็ควรเติมลมยางเพิ่มอีก 2-3PSI เช่นกัน

5. เช็คลมยางรถยนต์ ซ้ำอีกครั้ง

เคล็ดลับการวัดลมยางนั้นแนะนำว่าควรวัดซ้ำ 2 ครั้งเพื่อให้ได้ค่าที่แน่นอนและถูกต้อง นอกจากนั้นเพื่อให้เราสามารถเติมลมเพื่อเพิ่มความดันในระดับที่เหมาะสมได้การเติมลมให้ได้แรงดันที่พอดีก็คือเติมให้รู้สึกว่าเกินจุดพอดีไปสักนิด จากนั้นวัดแรงดันใหม่แล้วค่อยปล่อยลมออกจนได้ค่าที่เหมาะสม วิธีนี้จะง่ายกว่าค่อยๆเติมลมขยักขย่อนทีละน้อย ที่สำคัญ การ ตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องตรวจที่ ล้อไหน แต่ควรตรวจสอบจนครบทั้ง 4 เส้น เพื่อความมั่นใจว่า รถยนต์พร้อมใช้งานต่อนั่นเอง

6. ควรมีที่วัดลมยางรถยนต์ส่วนตัว

จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเช็คลมยางหลักๆ จะมีทั้ง เกจ์วัดลมยาง ที่ได้มาตรฐาน และเครื่องปั๊มลมลากจูงซึ่งสามารถหาได้ทั่วไปตามปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ควรพึงระลึกไว้ก็คือเกจ์วัดลมตามปั๊มนั้นถูกใช้งานมามาก อาจเกิดความคาดเคลื่อนในค่าที่วัดได้ ดังนั้นใครรักรถและเดินทางบ่อย จะซื้อเครื่องเช็คลมยางติดรถเอาไว้ใช้เองสักอันก็เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว

7. เช็คลมยางรถยนต์ ทุก 1-2 เดือน

เพราะโดยปกติแล้วลมยางจะลดลงด้วยตัวเองประมาณ 2-3ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน ดังนั้น ถ้าตอนที่เติมลมยางล่าสุดความดันอยู่ที่ 32 ปอนด์ เมื่อผ่านไป 1 เดือนก็อาจจะลดลงมาเหลือประมาณ 29-30 ปอนด์นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้ขับขี่จึงควรหมั่น วัดลมยาง และ เติมลมยาง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างน้อยเดือนละ 1-2ครั้ง และจำเป็นต้อง ดูลมยางรถ ทุกครั้งก่อนเดินทางไกลเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

การดูแลภายในและภายนอกรถ

1. ล้างและขัดเงารถ

o   ควรล้างและขัดเงารถเป็นประจำเพื่อรักษาความเงางามและป้องกันการกัดกร่อนจากคราบสิ่งสกปรกและสารเคมีต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านการตรวจจากบริษัทรีไฟแนนซ์รถยนต์ หากต้องใช้บริการในอนาคต

2. ดูแลรักษาภายในห้องโดยสาร

o   หมั่นทำความสะอาดภายในห้องโดยสารและใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเบาะและพรม เพื่อให้ภายในรถดูใหม่และน่าใช้งานอยู่เสมอ

สินเชื่อรถ, บริษัทรีไฟแนนซ์รถยนต์, รับจัดไฟแนนซ์

การดูแลรักษาระบบไฟฟ้า

1. ตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่

o   ตรวจสอบสภาพและทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อหมดอายุการใช้งาน

2. ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง

o   ตรวจสอบการทำงานของไฟหน้าไฟท้าย ไฟเบรค และไฟเลี้ยว เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีเป็นปกติหรือไม่

การปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษา

  • ควรปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้     เพื่อให้แน่ใจว่าทุกระบบของรถได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและทันเวลา

การดูแลรักษารถยนต์อย่างถูกต้องและไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถเท่านั้นแต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาวอีกด้วยการใส่ใจและดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีรถที่พร้อมใช้งานและอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอและการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ของคุณจะมีความสนุกสนานและเพลิดเพลินใจเป็นที่สุด 😊🚗💨

หากต้องการสภาพคล่องหรือเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้สามารถติดต่อขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์หรือจำนำเล่มทะเบียนจากไฟแนนซ์ที่ให้บริการและตรงตามเงื่อนไขคุณสมบัติได้
*ใช้วงเงินเท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

เบอร์โทร : +6620916456

Facebook : Amanah.co.th

ติดต่อเรา

สำนักงานใหญ่

บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 16-16/1 ซอยเกษมสันต์ 1 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330

โทร : 02 091 6456

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

Link เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

Copyright © 2022 AMANAH LEASING PUBLIC COMPANY LIMITED

DESIGN by