การดูแลและบำรุงรักษารถยนต์อย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถเท่านั้นแต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาวได้อีกด้วย เผื่อในอนาคตจำเป็นต้องสมัครสินเชื่อจำนำรถยนต์ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง นี่คือแนวทางการดูแลรักษารถยนต์ที่รวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด:
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ ควรเปลี่ยนที่ระยะทางเท่าไร
o หมั่นตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นว่าระดับน้ำลดลงมากกว่าเกณฑ์ปกติหรือไม่
o ไม่ควรเติมน้ำประปาควรใช้น้ำยาหล่อเย็นตามสเปกโรงงานยี่ห้อรถยนต์กำหนดเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกินตะกอนที่แผงหม้อน้ำและทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป
o เบรคเป็นส่วนสำคัญที่ต้องใช้งานได้ดีควรตรวจสอบผ้าเบรคและเปลี่ยนเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพโดยมีข้อแนะนำดังนี้
ผ้าเบรคเสื่อมสภาพ ส่วนที่มีการสึกหรอง่ายที่สุดต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อเสื่อมสภาพของระบบเบรคก็คือผ้าเบรคนี่แหละโดยวิธีเช็คว่าส่วนนี้ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่หรือยัง คุณสามารถทำเองได้เพียงแค่ลองเหยียบเบรคแล้วสังเกตว่าระยะเบรคที่เท้าลึกลงไปกว่าเดิมหรือไม่ถ้าเหยียบได้ลึกมากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ว่าระยะของเนื้อผ้าเบรคเริ่มสึกหรอหายไปกลายเป็นช่องว่างที่มากขึ้นระหว่างผ้าเบรคกับจานเบรคและนั่นก็หมายความว่าอาจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ได้แล้ว
ผลจากการเบรคคือการสึกหรอที่กลายเป็นฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดที่จานเบรคซึ่งนั่นส่งผลให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพคำแนะนำคือควรทำความสะอาดจานเบรคสักหน่อย ล้างเบรครถยนต์โดยใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับทำความสะอาดเพื่อล้างคราบสิ่งสกปรกที่จานเบรคให้หายไปเหยียบติดหนึบได้กับทุกสถานการณ์ของคุณเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย
พวกยางที่ปั๊มเบรคคืออีกส่วนที่มีปัญหาบ่อย ต้องดูแลตามระยะ ลองสังเกตคราบน้ำมันหยดตรงที่รถจอดบริเวณล้อ“มองข้ามไมได้” เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่าตัวระบบมีจุดไหนรั่วซึมซึ่งส่งผลให้น้ำมันเบรคลดลงต่ำกว่าความต้องการและอาจทำให้ตอนที่คุณเบรคทำได้ไม่ดีพอดังนั้นเมื่อเจอคราบน้ำมันหยดหรือสังเกตที่สายเบรคเห็นเป็นคราบสกปรกจากน้ำมันให้รีบเข้าอู่/ศูนย์ซ่อมเพื่อรีบซ่อมโดยทันทีน่าจะดีที่สุด
o ตรวจสอบสภาพยางและระดับแรงดันลมยางทุกครั้งก่อนขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและช่วยให้รถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมีข้อแนะนำดังนี้
รู้สึกว่าช่วงล่างนุ่มเกินไปเวลาขับขี่ ขับรถแล้วรู้สึกรถไม่ค่อยเกาะถนนเท่าที่ควรยิ่งขับรถด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น รถก็ยิ่งมีอาการโงนเงน ไม่นิ่ง ไม่มั่นคงหรือรู้สึกโยนมากขึ้นเมื่อขับบนถนนที่ไม่เรียบ
เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติและเปลืองน้ำมันมากขึ้นยิ่งถ้าหากลมยางอ่อนมากๆ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิดเพราะแก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนทำให้แรงดันในลมยางขยายตัว
สังเกตได้ง่ายๆว่า ถึงแม้ว่าในช่วงออกตัวรถจะดูไม่มีปัญหาอะไรก็จริงแต่ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเวลาเบรคกะทันหันจะต้องใช้ระยะเบรคมากขึ้นกว่าปกติ
การเติมลมยางแข็งเกินไปจะทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วแล้วตกหลุมหรือเกิดแรงกระแทกรุนแรงขณะขับขี่ก็อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นเดียวกับลมยางอ่อน
การ วัดลมยางรถยนต์ และเติมลมยางที่ถูกต้องควรจะวัดและเติมลมในขณะยางรถยนต์ยังมีอุณหภูมิปกติอยู่ หรือเพิ่งวิ่งมาไม่เกิน 2กิโลเมตร นั่นหมายความว่าหากคุณวิ่งรถมาไกลแล้วต้องการจะแวะปั๊มเพื่อเช็กและเติมลมยางเลยย่อมไม่สามารถทำได้เพราะการเสียดสีที่เกิดขึ้นในช่วงที่รถวิ่งมาไกลจะทำให้ล้อร้อนขึ้นซึ่งทำให้อากาศภายในยางขยายตัว ทำให้แรงดันล้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติหากเป็นเช่นนี้จำเป็นจะต้องพักรถจนเครื่องยนต์และล้อเย็นลงซึ่งอาจต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง(อาจน้อยกว่านี้หากขับมาบนนถนนที่ไม่ร้อน หรือขับมาในช่วงดึก-เช้า)จึงจะทำการวัดและเติมลมยางได้
เตรียมตัวกันแล้วก็มาถึงการ เช็คลมยาง แค่คลายฝาเกลียวบนก้านวาล์วของยางรถยนต์ จากนั้นหมุนจุกยางล้อออกและวางไว้บริเวณที่ปลอดภัยป้องกันการสูญหายพร้อมกับเสียบเกจ์วัดลมยางเข้าไป โดยขณะที่เสียบเกจ์วัดลมยางเข้ากับก้านวาล์วที่เปิดอยู่ถ้าได้ยินเสียงลมรั่วหรือมีอากาศเล็ดลอดออกมาแปลว่า เสียบไม่เข้าที่ให้เสียบเข้าไปใหม่จากนั้นให้เชื่อมต่อมาตรวัดค้างไว้สักครู่ก็จะสามารถอ่านค่าแรงดันยางจากหน้าปัดแสดงผลได้โดยค่าความดันยางก็คือ ตัวเลขสุดท้ายที่ปรากฎนั่นเอง
หลังจากทราบค่าแรงดันลมยางปัจจุบันแล้วหากแรงดันลมยางน้อยเกินไปให้ใช้เครื่องอัดอากาศที่มาพร้อมกับมาตรวัดแรงดันลมยางทำการเติมลมเพื่อเพิ่มความดันที่เหมาะสมซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 28-32 ปอนด์/ตร.นิ้ว(PSI) โดยอาจมากหรือน้อยกว่านี้ตามชนิดของรถและประเภทการใช้งานซึ่งเจ้าของรถสามารถอ้างอิงตัวเลขที่เหมาะสมกับรถได้จากตารางแรงดันลมที่แจ้งไว้ในคู่มือการใช้รถแต่ห้ามเติมลมยางเกินค่า PSI ที่ระบุไว้ที่แก้มยางเพราะนั่นเป็นแรงดันลมสูงสุดของยางที่สามารถรับได้
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าควรวัดค่าความดันลมยางขณะที่ยางยังมีอุณหภูมิปกติแต่หากจำเป็นต้องเติมลมยางกะทันหันขณะรถเพิ่งวิ่งทางไกลมากจริงๆก็ควรเติมเกินจากค่าความดันที่เหมาะสมไปอีก 2 ปอนด์ เพื่อชดเชยกับความดันในล้อที่จะลดลงเมื่อรถได้พักและล้อเย็นตัวลงสู่สภาพปกติ นอกจากนั้น สำหรับรถยนต์ที่บรรทุกของที่มีน้ำหนักมากหรือมีผู้โดยสารร่วมทริปมาก ก็ควรเติมลมยางเพิ่มอีก 2-3PSI เช่นกัน
เคล็ดลับการวัดลมยางนั้นแนะนำว่าควรวัดซ้ำ 2 ครั้งเพื่อให้ได้ค่าที่แน่นอนและถูกต้อง นอกจากนั้นเพื่อให้เราสามารถเติมลมเพื่อเพิ่มความดันในระดับที่เหมาะสมได้การเติมลมให้ได้แรงดันที่พอดีก็คือเติมให้รู้สึกว่าเกินจุดพอดีไปสักนิด จากนั้นวัดแรงดันใหม่แล้วค่อยปล่อยลมออกจนได้ค่าที่เหมาะสม วิธีนี้จะง่ายกว่าค่อยๆเติมลมขยักขย่อนทีละน้อย ที่สำคัญ การ ตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องตรวจที่ ล้อไหน แต่ควรตรวจสอบจนครบทั้ง 4 เส้น เพื่อความมั่นใจว่า รถยนต์พร้อมใช้งานต่อนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเช็คลมยางหลักๆ จะมีทั้ง เกจ์วัดลมยาง ที่ได้มาตรฐาน และเครื่องปั๊มลมลากจูงซึ่งสามารถหาได้ทั่วไปตามปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ควรพึงระลึกไว้ก็คือเกจ์วัดลมตามปั๊มนั้นถูกใช้งานมามาก อาจเกิดความคาดเคลื่อนในค่าที่วัดได้ ดังนั้นใครรักรถและเดินทางบ่อย จะซื้อเครื่องเช็คลมยางติดรถเอาไว้ใช้เองสักอันก็เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว
เพราะโดยปกติแล้วลมยางจะลดลงด้วยตัวเองประมาณ 2-3ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน ดังนั้น ถ้าตอนที่เติมลมยางล่าสุดความดันอยู่ที่ 32 ปอนด์ เมื่อผ่านไป 1 เดือนก็อาจจะลดลงมาเหลือประมาณ 29-30 ปอนด์นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้ขับขี่จึงควรหมั่น วัดลมยาง และ เติมลมยาง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างน้อยเดือนละ 1-2ครั้ง และจำเป็นต้อง ดูลมยางรถ ทุกครั้งก่อนเดินทางไกลเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
o ควรล้างและขัดเงารถเป็นประจำเพื่อรักษาความเงางามและป้องกันการกัดกร่อนจากคราบสิ่งสกปรกและสารเคมีต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านการตรวจจากบริษัทรีไฟแนนซ์รถยนต์ หากต้องใช้บริการในอนาคต
o หมั่นทำความสะอาดภายในห้องโดยสารและใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเบาะและพรม เพื่อให้ภายในรถดูใหม่และน่าใช้งานอยู่เสมอ
o ตรวจสอบสภาพและทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อหมดอายุการใช้งาน
o ตรวจสอบการทำงานของไฟหน้าไฟท้าย ไฟเบรค และไฟเลี้ยว เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีเป็นปกติหรือไม่
การดูแลรักษารถยนต์อย่างถูกต้องและไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถเท่านั้นแต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาวอีกด้วยการใส่ใจและดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีรถที่พร้อมใช้งานและอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอและการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ของคุณจะมีความสนุกสนานและเพลิดเพลินใจเป็นที่สุด 😊🚗💨
หากต้องการสภาพคล่องหรือเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้สามารถติดต่อขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์หรือจำนำเล่มทะเบียนจากไฟแนนซ์ที่ให้บริการและตรงตามเงื่อนไขคุณสมบัติได้
*ใช้วงเงินเท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
เบอร์โทร : +6620916456
Facebook : Amanah.co.th